ตึกพัก
เมื่อนักเขียนสาวต้องย้ายที่อยู่ใหม่ ณ ตึกพักแห่งใหม่นี้ทำให้เธอได้เจอกับเหตุฆาตกรรม ความจำใจที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องจากเสียงลึกลับที่ได้ยิน ทำให้เธอตกที่นั่งลำบาก เธอจะเอาตัวรอดจากฆาตกรได้หรือไม่
ผู้เข้าชมรวม
1,798
ผู้เข้าชมเดือนนี้
29
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
1.
ตุ๊บ ๆๆๆๆๆๆๆ ครืด ๆๆๆ
นี่มันเสียงอะไรกัน!
แค่ไม่กี่วันที่ย้ายเข้ามาอยู่ในอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ ก็ได้ยินเสียงประหลาดแว่วมาในความมืดเสียแล้ว
#
“ขอให้ย้ายออกให้เรียบร้อยภายในสิ้นเดือนนี้นะครับ ผมจะให้ช่างเข้ามาปรับปรุงบ้าน ก่อนจะย้ายเข้ามาอยู่”
บ้านหลังที่ริตาเช่าอยู่มาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เจ้าของบ้านได้ขายให้กับคนซื้อแล้ว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องรายได้ คนซื้อต้องการย้ายเข้ามาอยู่แทนริตาเพราะต้องออกจากบ้านพักราชการตอนเกษียณในเดือนตุลาคม ริตาอ่านข้อความสั้น ๆ จากผู้ซื้อบ้านที่ส่งมาในโปรแกรมสนทนา ด้วยความรู้สึกปวดมวนท้องแบบที่ไม่อาจบรรยาย ความอาลัยอาวรณ์ทำให้กรดในกระเพาะออกมาเล่นงาน มองเหลียวไปมุมไหนของบ้านก็ล้วนแต่มีความทรงจำ ยังดีที่ไม่ใช่คนชอบสะสมอะไรนัก ข้าวของจึงมีไม่มาก ระหว่างที่ต้องสาละวนกับการเก็บของต่าง ๆ แยกใส่ถุงไว้เพื่อย้าย เธอก็ต้องทำอีกเรื่องที่สำคัญด้วย แม้จะพยายามผัดผ่อนกับตัวเองมานาน เพราะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่คราวนี้เห็นทีจะเลี่ยงไม่ได้แล้ว
“นี่เราจะต้องย้ายที่อยู่ใหม่หรือนี่ เฮ้อไม่ชอบเลย”
ริตาเปิดอินเทอร์เน็ตค้นหาคำว่า อพาร์ทเมนท์ใกล้ ๆ ฉันในกูเกิ้ล รูปภาพมากมายละลานตาที่ขึ้นมา ถึงกับทำให้ริตาสยองเพราะเกลียดความเปลี่ยนแปลงเป็นทุนเดิม เธอไม่ชอบย้ายไปไหน การอยู่ที่เดิม สิ่งแวดล้อมเดิม กินอาหารแบบเดิม ผู้คนรอบข้างคนเดิม ๆ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย สงบ และเหมาะกับอาชีพและนิสัยของเธอ
ภาพตึกสีเทาสูงสี่ชั้นในอินเทอร์เน็ตนั้นดูน่าสนใจที่สุด ด้วยสภาพที่ยังดูใหม่ ทำให้ริตารีบกดโทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่ขึ้นอยู่หน้าจอ
“สวัสดีครับ เดอะ เกรย์ ยินดีต้อนรับครับ”
“ยังมีห้องว่างไหมคะ”
“ห้องจะมีว่างตอนสิ้นเดือน ตอนนี้ทุกห้องเต็มหมดแล้วครับ”
“งั้น...ก็ยังไม่สามารถดูห้องได้สิคะ”
“ยังครับ แต่ถ้าคุณลูกค้าสนใจ เดี๋ยวเราแอดไลน์กันแล้วผมส่งรูปให้ดูก่อนดีไหมครับ”
“แบบนั้นก็ได้ค่ะ”
ภาพห้องที่ได้รับมาจากเจ้าของอพาร์ทเมนท์นั้น ดูใหม่ สีโทนขาวฟ้า มีเฟอร์นิเจอร์ครบชุด สะอาด ริตารู้สึกพอใจมาก จึงตอบกลับไปทันทีว่า
“ริตาสนใจนะคะ ถ้าคนเช่าย้ายออกเมื่อไหร่ ขอไปดูห้องค่ะ”
“ได้ครับ น่าจะประมาณวันที่สามสิบ เดี๋ยวผมจะรีบแจ้งไป”
“ว่าแต่ทำไมเขาย้ายออกคะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่ไหม” ริตารู้สึกกังวลใจนิด ๆ
“ไม่มีครับ พอดีน้องเขาย้ายที่ทำงานครับ”
“อ๋อ งั้นสิ้นเดือนอย่าลืมนะคะ ริตาจะเข้าไปดูห้องค่ะ”
“ครับ”
ระหว่างที่ยังไม่ได้ไปดูอพาร์ทเมนท์นั้น ริตาก็พยายามหาที่อื่น ๆ ดูเตรียมเอาไว้เหมือนกัน ห้องที่ไปดูบางที่ก็อึดอัด บางที่ก็มีจำนวนห้องมาก ซึ่งริตาก็ไม่ชอบ ที่ไหนคนเยอะที่นั่นย่อมมีเรื่องวุ่นวาย ริตาคิดแบบนั้น บางที่มีแต่นักศึกษานั่นก็ไม่น่าจะดี นักศึกษาวัยหนุ่มสาว มักจะชอบสังสรรค์เฮฮา ชอบมีเรื่องทะเลาะขัดใจ คงไม่สงบเงียบแบบที่ริตาต้องการ เมื่อหาที่ไหน ๆ ก็ไม่ถูกใจเท่ากับที่เดอะ เกรย์ ริตาจึงลงทุนขับรถไปดูสภาพโดยรอบของตึก โดยไม่แจ้งเจ้าของตึก เธออยากเห็นสภาพที่แท้จริงโดยไม่บอกล่วงหน้า หลังจากตั้งโปรแกรมนำทางจากบ้านเดิมขับรถมาเพียงไม่ถึงสิบนาที ตึกนั้นก็ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าริตา
ตัวตึกอยู่ห่างจากถนนใหญ่ไม่มาก แค่เลี้ยวหนึ่งครั้งในระยะทางไม่น่าจะเกินห้าร้อยเมตรจากถนนใหญ่ นั่นพอที่จะไม่มีเสียงดังมากนักในเวลากลางคืน แต่ก็ไม่เปลี่ยวนักเพราะใกล้ถนนใหญ่ ด้านข้างตึกสองข้างและด้านหลังเป็นบ้านหลังใหญ่มีรั้วรอบขอบชิดของคนพักอาศัย ตรงข้ามตึกเป็นที่ดินว่างเปล่ามีกอกล้วยปลูกอยู่ ใบกล้วยพัดสะพัดโอนเอนดูเพลินตาดีเหมือนกัน
เมื่อมาเห็นสภาพโดยรอบของตึก ริตาก็ยิ่งชอบ เธอส่งข้อความไปบอกเจ้าของอพาร์ทเมนท์ว่า
“วันนี้ริตาขับรถมาดูรอบนอกของตึกแล้วนะคะ ยืนยันว่าสิ้นเดือนขอดูห้องทันทีที่คนเก่าย้ายออกค่ะ”
วันสิ้นเดือนเจ้าของอพาร์ทเมนท์โทรศัพท์ตามให้เธอมาดูห้อง คราวนี้ริตาขับรถมาเองไม่ต้องพึ่งโปรแกรมนำทาง เมื่อจอดรถ ริตาก็เห็นป้ายติดว่าให้โทรศัพท์แจ้ง เนื่องจากเจ้าของตึกกำลังตรวจดูการล้างแอร์อยู่ที่ชั้นสอง ผู้ชายคนที่เดินลงมาเปิดประตูให้ริตานั้น เป็นชายผิวขาว แนะนำตัวเองว่าชื่อ “อาท” อายุราวสี่สิบ มีผมหงอกแซมกับเส้นผมสีดำ รูปร่างสูงโปร่ง แบบคนมีเชื้อสายจีน เขาสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้มใส่รองเท้าผ้าใบดูทะมัดทะแมง ยิ้มที่ส่งมาต้อนรับก่อนเปิดประตูบ่งบอกถึงความเป็นคนสุภาพ ดูใส่ใจ ไม่ใช่ยิ้มแบบกะลิ้มกะเหลี่ยเมื่อเห็นหญิงสาว นั่นทำให้ริตาพอใจ แต่ในรอยยิ้มนั้น ริตาก็อดรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้ เหมือนมีอะไรสะกิดใจ ซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร
ห้องที่ริตามาดูนั้นอยู่ชั้นสาม เป็นฝั่งที่หันหน้าเข้าหาถนน แม้ใจจะอยากได้ห้องอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นห้องด้านหลังติดกับบ้านคนมากกว่า เพราะคงสงบเงียบ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกริตาก็ต้องจำยอม อพาร์ทเมนท์แห่งนี้ทำได้ดูดี สภาพคล้ายคอนโด ทั้งตึกมีห้องเพียง 24 ห้องเท่านั้น ตึกสี่ชั้นด้านนอกทาสีสีเทาเข้มและอ่อนสลับชั้น มองจากภายนอกดูใหม่สวยไม่โทรม สร้างเสร็จมาแค่ปีกว่า ๆ ชั้นล่างมีที่จอดรถด้านหน้าตึก และด้านข้าง จอดรถได้ประมาณสิบคัน กล้องวงจรปิดมีอยู่โดยรอบทั้งด้านนอกและด้านในจำนวนกว่าสิบตัวเรียกว่าเห็นได้ทุกมุมทุกชั้นทุกจุดมีกล้องครอบคลุมอยู่หมด มีสัญญาณไวไฟให้แต่ละชั้นอย่างเพียงพอ
จากทางเข้าด้านหน้า เป็นประตูกระจกแบบต้องใช้ คีย์การ์ดสัมผัสถึงจะเข้าตึกได้ มีห้องออฟฟิศของเจ้าของ อพาร์ทเมนท์อยู่ตรงทางเข้าด้านนอก เมื่อเข้าประตูไปเป็นทางเดินปูด้วยแกรนิโต้สีเทาอ่อน ติดประตูเป็นส่วนซักผ้า มีเครื่องซักผ้าสองเครื่อง เครื่องอบผ้าหนึ่งเครื่อง พอใช้สำหรับจำนวนห้องที่มีอยู่ ชั้นล่างจะมีห้องพักอยู่สองห้อง ระหว่างทางเดินมีโคมไฟเรียงกันสามตัวแขวนห้อยลงมาจากฝ้าเพดาน ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีตู้รับจดหมายติดผนังทำจากไม้เหมือนที่เห็นตามคอนโดมิเนียม สุดทางเดินอีกด้านเป็นตู้กดน้ำดื่มอยู่ติดกับบันไดหนีไฟ เมื่อเดินขึ้นบันไดไปครึ่งชั้นจะเป็นลิฟท์ที่ขึ้นไปสุดแค่ชั้นสาม ทางเดินแต่ละชั้นสะอาดสะอ้าน
เมื่อออกจากลิฟท์ต้องเดินลงไปครึ่งชั้นจึงจะเป็นชั้นสาม และเดินขึ้นบันไดไปอีกครึ่งชั้นจึงจะเป็นชั้นสี่ เลขที่ติดอยู่ที่หน้าห้องด้วยกรอบอะครีลิกสวยงามสีขาวตัวหนังสือสีดำระบุเลข 305
สภาพภายในห้องยิ่งทำให้ริตาพอใจมากขึ้น ผนังของห้องทาสีขาวสองด้าน อีกด้านเป็นประตูกระจกกรอบสีดำกระจกใสมองจากด้านนอกเข้ามาไม่เห็นภายในห้อง มีม่านสีเทาติดไว้สองด้าน ประตูมุ้งลวดแบบบานเลื่อนเพื่อระบายอากาศยามอยากสูดอากาศภายนอก ส่วนผนังอีกด้านฝั่งหัวเตียงเป็นสีฟ้าอ่อน เตียงนอนสีขาวขนาดห้าฟุตพร้อมผ้าปูรองสีขาวสะอาดตา ที่นอนหุ้มพลาสติกไว้ดูใหม่เอี่ยม ตู้เสื้อผ้าติดผนังสูงจากพื้นติดฝ้าเพดาน ด้านขวามือมีกระจกบานใหญ่พร้อมโต๊ะขนาดยาวเอนกประสงค์ที่ริตาวางแผนให้เป็นโต๊ะแต่งหน้าและทำงานไปด้วยในตัว ด้านซ้ายมีโต๊ะขนาดย่อมลงมาสำหรับวางโทรทัศน์และมีช่องสำหรับใส่ของด้านล่าง นอกจากนี้ยังมีชั้นหนังสือให้อีกทั้งสองฝั่งของห้อง มีโต๊ะหัวเตียงทั้งสองด้านของเตียงนอน
‘สะดวกแบบนี้ริตาหอบเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวเข้ามาอยู่ได้เลยนะนี่’ ริตาคิดในใจอย่างพึงพอใจ เมื่อเจ้าของอพาร์ทเมนท์เรียกขอค่าวางมัดจำเพื่อจองห้อง เพราะถ้าไม่อย่างนั้นจะมีอีกคนมาขอดู ริตาจึงไม่ลังเลที่จะโอนให้ และเขียนสัญญาจองกันทันที ก่อนที่จะขอย้ายเข้ามาช่วงกลางเดือน เพื่อให้โอกาสเจ้าของตึกได้เก็บห้องทำความสะอาดให้ใหม่อีกรอบ
หลังจากย้ายเข้ามาอยู่ริตายิ่งมีความสุขมากขึ้นและดีใจที่ตัดสินใจเลือกพักที่นี่ ความเงียบสงบของตึกที่แทบจะไม่มีเสียงอะไรเลยทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้งานเขียนนิยายสยองขวัญของริตาคืบหน้าไปมาก โดยไม่ต้องรอดึกดื่นค่อนคืนแล้วค่อยเขียนเหมือนทุกที ที่นี่เธอสามารถเขียนได้ตอนกลางวัน บางวันมีเสียง ตั๊กแก …. เป็นเพื่อนจากกอกล้วยฝั่งตรงข้าม เพิ่มบรรยากาศให้ริตาได้เป็นอย่างดี เธอยังสามารถแบ่งเวลาช่วงบ่ายออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ ได้อีกด้วย เรียกว่าชีวิตในตอนนี้ของริตาลงตัวอย่างที่สุด และเธอก็พออกพอใจและคิดว่าตัวเองเลือกที่พักไม่ผิดด้วยความรู้สึกยินดีกับตัวเองอย่างที่สุด
กลางดึกคืนวันนั้นขณะที่ริตากำลังดูหนังสยองขวัญอยู่ เสียงหนึ่งก็ดังแทรกมาในความเงียบสงบของรัตติกาลที่ท้องฟ้าเบื้องนอกถูกห่อหุ้มไปด้วยความมืดมิดดุจคลี่กำมะหยี่คลุม
ตุ๊บ ๆๆๆๆๆๆๆ ครืด ๆๆๆ
นี่มันเสียงอะไรกัน! ใจริตาเต้นระรัว สั่นไหว หัวเริ่มปวดตุ้บ ๆ ขึ้นมาตามแนวขมับ มือเท้าเริ่มเย็น ริตาไม่กล้าหาคำตอบว่ามันคือเสียงอะไร จินตนาการในหัวโลดแล่นไปสารพัดตามประสานักเขียนเรื่องสยองขวัญ มือกดปุ่มเร่งเสียงของโทรทัศน์ให้เสียงดังขึ้นเพื่อกลบเสียงแปลก ๆ ขยับลุกจากเตียงเดินไปตรวจล็อกประตูที่หมุนล็อกได้สองรอบ จับโซ่ที่ห้อยอยู่แขวนคล้องเข้ากับรางอีกชั้นหนึ่ง มองไปที่ช่องตาแมวสำหรับส่องดูภายนอกห้องด้วยความลังเล เธอตัดสินใจไม่มอง ค่อย ๆ ย่องขึ้นเตียง สอดตัวลงในผ้าห่มทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าว ไม่กล้าปิดทั้งโทรทัศน์และโคมไฟ ไม่รู้ว่าตนเองผล็อยหลับไปตอนไหน ริตาหวังว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเธอแค่ประสาทไปเอง คิดไปเองจากหนังสยองขวัญที่กำลังดู
…..
ผลงานอื่นๆ ของ อักษราลัย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อักษราลัย
ความคิดเห็น